วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

เรารักประเทศไทย

แนะนำสุโขทัย

สุโขทัยเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีทั้ง ศรีสัชนาลัย และ เมืองเก่าสุโขทัย ในฐานะที่เคยเป็นศุนย์กลางความเจริญของอาณาจักรสุโขทัยเห็นได้อย่างชัดเจนจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยและอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตราบทุกวันนี้ศรีสัชนาลัยและเมืองเก่า ยังคงเป็นศูนย์รวมการค้าและการท่องเทียวที่นำรายได้หลั่งไหลเข้าสู่ท้องถินมหาศาล
แดนดินราชธานีไทยในอดีตแห่งนี้ มีแหล่งโบราณสถานโบราณวัตถุอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมหลากหลาย หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจนั้นต้องยกให้ “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” โบราณสถานที่ยูเนสโกจัดให้เป็นเมืองมรดกโลก อยู่ห่างจาก อ.ศรีสัชนาลัย ลงมาทาง อ.สวรรคโลก 11 กิโลเมตร อยู่ในเขตหมู่บ้านพระปรางค์ ต.ศรีสัชนาลัย หากเดินทางไปจาก อ.เมืองฯ ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง บริเวณที่ตั้งของอุทยานฯ เรียกว่า “แก่งหลวง” แต่โบราณศรีสัชนาลัยชื่อ “เมืองเชลียง” แต่เมื่อกรุงสุโขทัยได้รับสถาปนาเป็นเมืองหลวง ได้มีการสร้างเมืองใหม่ขื้นมาชื่อ “ศรีสัชนาลัย” ให้เป็นเมืองลูกหลวงของสุโขทัยและเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองแทนเมืองเชลียง
ต่อมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาขยายอำนาจขึ้นครองหัวเมืองทางเหนือ จึงเปลี่ยนชื่อเมืองศรีสัชนาลัยเสียใหม่ว่าเมืองสวรรคโลก ภายหลังจึงได้สถานะเป็นอำเภอของสุโขทัย




ลอยกระทงสุโขทัย




งานประเพณเผาเทียนเล่นไฟ

งานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟเป็นงานประเพณีที่จังหวัดจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ ลักษณะของงานประกอบด้วยการลอยกระทงจุดประทีปโคมไฟ จุดตะไลไฟพะเนียง การละเล่นพื้นบ้าน ขบวนแห่ต่างๆ และระบำโบราณคดีชุดสุโขทัย แสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวสุโขทัยตามศิลาจารึก ในบรรยากาศและ สิ่งแวดล้อมของโบราณสถานในบริเวณ เมืองเก่าสุโขทัย นอกจากนี้ยังมีการแสดงแสงเสียง เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของอาณาจักร

สุโขทัยงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย จัดให้มีขบวนแห่พนมหมาก พนมดอกไม้ ขบวนแห่กระทง และมีขบวนต่างๆ โดยมีนางนพมาศนั่งมากับกระทง และมีสาวๆ ที่ถือพนมหมาก พนมดอกไม้ นั่งร่วมอยู่ด้วย พนมหมาก และพนมดอกไม้นี้นำไปสักการะพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ณ อนุสาวรีย์ของพระองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในใจกลางเมืองเก่าสุโขทัย เมื่อการบวงสรวงพ่อขุนเสร็จแล้ว ผู้คนและนักท่องเที่ยวจะทยอยเข้ามาในเขตเมืองเก่า แล้วการลอยกระทงตามตระพังต่างๆ ก็เริ่มขึ้น แสงไฟจากการลอยกระทงก็จะสว่างไสวท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย จึงเป็นที่พึงใจแก่ผู้เข้าร่วมงานอย่างยิ่ง

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

ลักษณะของการผสมพันธ์ของปลากัด

ปลากัดสวยงาม


การเลียงปลากัดสี
ปลากัดเป็นปลาสวยงามอีกชนิดหนึ่ง ที่มีผู้นิยมเลี้ยงกันมานานแล้ว จนมีการพัฒนาพันธุ์ให้มีหลากหลายสี เป็นที่ต้องการของตลาด การเพาะพันธุ์ปลากัดเริ่มแรกจะต้องเลือกพ่อแม่ปลาที่มีอายุ ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป มีความสมบูรณ์เต็มที่
โดยจะสังเกตได้จากตัวผู้เมื่อนำ มาเทียบกับตัวเมียจะว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่วและก่อหวอดขึ้น ส่วนตัวเมียที่บริเวณท้องจะมีลักษณะอูมบวมเพราะมีไข่อยู่ เมื่อได้พ่อแม่ปลาที่มีความสมบูรณ์แล้ว ก็นำมาแยกใส่ขวด โหล ตั้งไว้ติดกันเพื่อให้ตัวเมียไข่สุกเร็วขึ้นซึ่งฤดูกาลควรจะเริ่มในช่วง เดือนพฤษภาคม-กันยายน เพราะถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวปลาจะไม่ค่อยผสมพันธุ์กัน เมื่อเทียบปลาไปได้
ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็นำใส่ลงในบ่อปูนหรือกะละมัง ก็ได้ โดยให้มีระดับน้ำพอเหมาะ และควรใส่ไม้น้ำลงไปเพื่อให้พ่อปลาก่อหวอดหลังจากนั้น 2 วัน พ่อปลาจะเริ่มก่อหวอดและคลี่ครีบไล่ต้อน ตัวเมียให้ไปอยู่ใต้หวอดเพื่อรัดท้องแม่ปลารีดไข่ให้ออกมาแล้วฉีดน้ำเชื้อลงในไข่ และไข่จะจมลงไปสู่พื้นบ่อ พ่อปลาจะว่ายไปอมไข่มาไว้ที่หวอด เมื่อแม่ปลาวางไข่หมดแล้วให้นำออกจากบ่อป้องกันไม่ให้กินไข่ แล้วปล่อยให้พ่อปลาดูแลไข่ประมาณ 2 วัน จึงนำออกจากบ่อเพาะเช่นเดียวกัน ไข่ปลาจะเริ่มฟักออกเป็นตัวภายในเวลา 36 ชั่วโมง แล้วจะเกาะอาศัยอยู่ที่หวอด ในระยะ 3-4 วันแรกยังไม่ต้องให้อาหารเพราะลูกปลามีถุงอาหารติดอยู่หลังจากที่ฝักออกมา เมื่อถุงอาหารยุบแล้วก็เริ่ม ให้อาหารเป็นไข่แดงต้มสุกละลายน้ำ กรองผ่านกระชอนตาถี่วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 - 5 วันจึงเปลี่ยนไปให้ไรแดงขนาดเล็กแทน จนกระทั่งปลากินลูกน้ำได้ ซึ่งจะสามารถแยกเพศเมื่อปลาได้อายุ 45 วันขึ้นไป และเมื่อปลาเริ่มกัดกันจึงค่อยแยกใส่ขวดโหลขวดละตัว ปลากัดตัวผู้จะมีสีสันและความสวยงามมากกว่าปลากัดตัวเมีย แต่ปลากัดตัวผู้นั้นจะมีนิสัยก้าวร้าวมากกว่าปลากัดตัวเมีย